เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของอาหารแมวชนิดต่างๆ

ทาสแมวทั้งหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดเลี้ยงแมว 

หรืออยู่ในวงการทาสแมวมายาวนาน

นอกจากจะต้องศึกษาและเลือกสายพันธุ์แมวที่เหมาะสมกับตัวคุณ

แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากและทุกท่านต้องรู้ก่อนเลี้ยงแมวนั่นก็คือ...

“อาหารแมว”

เลือกอย่างไร? ควรให้อาหารชนิดไหน? เปียกหรือแห้ง? อาหารสดหรือปรุงสุก? แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร?...

หากคุณกำลังสับสนงุนงงกับชนิดอาหารแมวที่หลากหลาย

เราแนะนำว่าให้ลองอ่านภาพประกอบดังต่อไปนี้และเลือกคำตอบมา 1 ข้อ

เมื่อคุณได้คำตอบมาแล้ว ให้เลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารชนิดนั้นเพื่อเช็คดูว่าเป็นอาหารแมวที่เหมาะสมกับคุณจริงหรือไม่ และถ้าจะให้ดี ลองอ่านรายละเอียดอาหารชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันเพื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย

อาหารเม็ด

คืออาหารแมวในรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด มาในรูปแบบเม็ดเล็กๆ อัดแข็งมีหลากหลายรูปแบบ แพ็คมาในถุง ให้สะดวกเพียงแค่ตวงแล้วเสิร์ฟหรือเททิ้งไว้ให้แมวทานได้ตลอด 24ชม. วางไว้ได้นานโดยที่อาหารไม่บูดเสีย เก็บง่ายเพียงแค่ปิดปากถุงและเก็บไว้ในที่แห้ง เก็บได้นานแต่บางยี่ห้ออาจผสมสารกันบูด อาหารเม็ดเกรดท้องตลาดอาจมีสารอาหารไม่ครบ มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตสูงสุดเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ ทำให้ย่อยและดูดซึมสารอาหารยาก ทำให้แมวอ้วนง่าย มีความชื้นต่ำเกินไปเสี่ยงต่อโรคนิ่ว โรคไต ส่วนเรื่องราคามีหลายระดับตั้งแต่ราคาจับต้องได้จนถึงราคาสูง

*เนื่องจากอาหารเม็ดต้องขึ้นรูปให้เป็นเม็ดอัดแข็ง ส่วนผสมเช่น เนื้อสัตว์ ที่เมื่อโดนความร้อนสูงจะแห้งแตกเป็นผงและไม่เกาะตัวเป็นก้อน จึงต้องมีการนำส่วนผสมจำพวกคาร์โบไฮเดรต (ข้าว ข้าวโพด มันฝรั่ง ถั่วลูกไก่ ฯลฯ) มาผสมด้วยเพื่อช่วยยึดส่วนผสมทุกอย่างให้จับตัวกันเป็นก้อน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกอาหารเม็ดยี่ห้อไหน เกรดดีแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตได้ 100%

ไม่เหมาะกับใคร: หากแมวของคุณเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคไต โรคนิ่ว หรือมีน้ำหนักเกินและต้องการลดน้ำหนัก อาหารเม็ดอาจไม่เหมาะกับแมวของคุณ

เหมาะกับใคร: บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัว ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร ไม่ค่อยอยู่บ้าน ต้องการความสะดวกเป็นหลัก หรือต้องการซื้ออาหารไปบริจาค อาหารเม็ดจะเหมาะที่สุด

ข้อดี 

• สะดวกในการให้ที่สุด
• หาซื้อได้ง่าย
• เก็บได้นาน
• ราคาจับต้องได้

ข้อเสีย 

• อาหารย่อยยาก และดูดซึมยาก เพราะอาหารที่ผ่านการปรุงสุกจะขาดเอ็นไซม์
• สารอาหารอาจไม่ครบ เพราะถูกทำลายจากการปรุงสุก
• มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตสูงที่สุด มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและเบาหวาน
• ความชื้นต่ำ ทำให้แมวได้รับปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้เสี่ยงเป็นโรคไตและโรคนิ่ว

ความสะดวกในการให้ ⭐⭐⭐⭐⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐⭐⭐⭐⭐

สารอาหาร ⭐(⭐⭐) ขึ้นอยู่กับเกรดอาหาร

ความชื้น ⭐

ราคา ⭐(⭐⭐) ขึ้นอยู่กับเกรดอาหาร

อาหารเปียก (ทั้งแบบซองและกระป๋อง)

ตัวอย่าง: ทูน่าในน้ำแร่

คืออาหารแมวที่เราคุ้นเคยเป็นอันดับ 2 เป็นอาหารที่มาในรูปแบบกระป๋องหรือซอง pouch เวลาเสิร์ฟเพียงแค่ฉีกซองหรือเปิดกระป๋องแล้วเสิร์ฟได้ทันที สะดวกระดับหนึ่งแต่มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถเสิร์ฟอาหารทิ้งไว้นานได้เนื่องจากอาหารมีความชื้นสูง อาหารจะเริ่มบูดหากเสิร์ฟทิ้งไว้นานกว่า 30 นาที หากทานเหลือไม่ควรเก็บไว้ให้ในมื้อต่อไป อาหารเปียกที่ยังไม่ได้เปิดใช้เก็บง่ายและเก็บได้นานโดยที่ไม่ต้องแช่เย็น อาหารชนิดนี้มีหลายเกรด เกรดท้องตลาดมีราคาถูกแต่มีสารอาหารไม่ครบ ส่วนเกรดพรีเมี่ยมเป็นต้นไปจะมีราคาสูงแต่ก็มีความน่ารับประทานสูงสำหรับแมวเช่นกัน

ไม่เหมาะกับใคร: แมวที่ติดอาหารเปียกจนไม่ทานอาหารชนิดอื่น แมวที่ขาดสารอาหาร 

เหมาะกับใคร: แมวที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ ลูกแมวที่เพิ่งหย่านมกำลังหัดทานอาหารแมว แมวที่ทานอาหารยากอาหารเปียกจะช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้ดีที่สุด บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัว ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร ต้องการความสะดวกเป็นหลัก

ข้อดี 

• สะดวกในการให้
• เก็บง่าย ไม่ต้องแช่เย็น
• มีความชื้นสูง ลดความเสี่ยงโรคไต โรคนิ่ว
• มีความน่ารับประทานสูง (สำหรับแมว)

ข้อเสีย 

• หากเป็นอาหารเกรดทั่วไปที่ ซื้อตามซุปเปอร์ส่วนมากสารอาหารจะไม่ครบ
• หากเป็นเกรดพรีเมี่ยมสารอาหารจะมีมากขึ้น แต่ไม่มากเท่าอาหารสด เพราะสารอาหารถูกทำลายไปมากจากการปรุงสุก
• ไม่สามารถวางเสิร์ฟไว้ให้แมวทานข้ามวันแบบอาหารเม็ดได้
• มีราคาสูง เมื่อเทียบราคากับปริมาณอาหารที่แมวกิน เมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ

ความสะดวกในการให้ ⭐⭐⭐⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐⭐⭐⭐

สารอาหาร ⭐⭐

ความชื้น ⭐⭐⭐⭐⭐

ราคา ⭐⭐⭐

อาหารปรุงสุกทำเอง

คืออาหารที่เราประณีตบรรจงปรุงสุกเองเพื่อเอาใจแมวเป็นพิเศษ อาหารชนิดนี้มีหลากหลายเมนูมากไม่ว่าจะเป็น อกไก่ต้ม ไข่ต้ม กุ้งต้ม ปลาหมึกย่าง ปลานึ่ง หรือเมนูสุดฮิตอย่าง ข้าวคลุกปลาทู ทาสแมวที่แท้ทรูเท่านั้นที่จะยอมเสียสละเวลาเพื่อรังสรรค์เมนูอาหารแมวใหม่ๆ แต่ขอให้พึงระวังเรื่องวิธีการปรุงอาหาร ไม่ควรใส่เครื่องปรุงใดๆ ทั้งสิ้นเนื่องจากไตของแมวมีขนาดเล็กมากและไวต่อสารพิษจากเครื่องปรุง/ชูรส บวกกับแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยดื่มน้ำจึงทำให้การขับของเสียเป็นเรื่องที่ยากเมื่อเทียบกับเรา ส่วนเรื่องสารอาหารก็เป็นอีกข้อนึงที่ควรระวัง หากคุณยืนยันที่จะทำอาหารให้แมวทานเองแนะนำว่าให้แมวทานอาหารชนิดอื่นสลับกับอาหารปรุงสุกเองด้วยเพื่อป้องกันการขาดสารอาหารในระยะยาว

ไม่เหมาะกับใคร: แมวที่เลือกกินและติดเมนูอาหารบางอย่างจนไม่ยอมทานอาหารชนิดอื่น แมวที่ขาดสารอาหาร

เหมาะกับใคร: แมวที่ทานอาหารยาก เมนูอาหารพิเศษอาจช่วยเพิ่มความน่าตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับแมวได้

ข้อดี 

• สามารถเลือกและควบคุมวัตถุดิบอาหารเอง
• อาหารสะอาดเพราะผ่านการปรุงสุก

ข้อเสีย 

• สารอาหารอาจไม่ครบเนื่องจากอาหารผ่านการปรุงสุกทำให้สารอาหารถูกทำลายไปเยอะ
• ไม่สามารถวางเสิร์ฟไว้ให้แมวทานข้ามวันแบบอาหารเม็ดได้
• หากทำในปริมาณเยอะ ต้องเก็บในช่องแช่แข็งเหมือนอาหารสดดิบ
• ต้องมีพื้นที่เก็บในตู้เย็น
• ต้องมีเวลาทำอาหาร

ความสะดวกในการให้ ⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐

สารอาหาร ⭐⭐

ความชื้น ⭐⭐⭐(⭐⭐) ขึ้นอยู่กับเมนูอาหาร

ราคา ⭐⭐

อาหารสด (บาร์ฟ)

บาร์ฟ หรือ B.A.R.F. ย่อมาจาก Biologically Appropriate Raw Food หรือ Bone And Raw Food คืออาหารสดดิบที่สมดุลมีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสมกับแมว อาหารสดจะมีเอ็นไซม์ซึ่งช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ไม่มีคาร์โบไฮเดรต (หรือถ้ามีก็น้อยมาก) แมวกินจุแค่ไหนก็ไม่มีอ้วนเสียหุ่น มีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แมวดูตัวแน่นขึ้น ข้อดีที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ แมวจะอึก้อนเล็กลงและไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น เรื่องกลิ่นตัว กลิ่นปากก็ไม่มี ขนขึ้นไว ขนนุ่ม แน่นฟู ไม่ค่อยหลุดร่วง หากคุณต้องการให้แมวสุขภาพดีเป็นหลัก อาหารบาร์ฟจะเหมาะที่สุด

หากคุณยังสงสัยว่าเราจะลำบากให้แมวทานบาร์ฟไปทำไม ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ > ให้แมวกินบาร์ฟไปทำไม

______________________________________

บาร์ฟทำเอง

คืออาหารสดดิบที่เราทำเอง ข้อดีคือ คุณสามารถเลือกวัตถุดิบเองได้ คุมงบประมาณ ปรับสูตรเองได้ตามต้องการ แต่คุณก็ต้องมีพื้นฐานในการทำบาร์ฟในระดับหนึ่งซึ่งหากคุณต้องการที่จะทำบาร์ฟเองก็ต้องยอมเสียสละเวลาเพื่อศึกษาเกี่ยวกับ ส่วนผสม สัดส่วนอาหาร และวิธีทำอย่างละเอียด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ > บาร์ฟแมวทำเอง

ไม่เหมาะกับใคร: คนที่ไม่ชอบทำอาหารและไม่มีเวลาว่าง ไม่มีพื้นที่เก็บในตู้เย็น

เหมาะกับใคร: สำหรับแมว - แมวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แมวประกวด แมวพันธุ์ผสม แมวจรจัดหรือแมวที่ขาดสารอาหาร 

สำหรับเจ้าของแมว – คนที่ชอบทำอาหาร มีเวลาทุ่มเทเอาใจใส่รายละเอียด และมีพื้นที่เก็บอาหารในช่องแช่แข็ง

ข้อดี 

• อาหารสดจะมีเอ็นไซม์ซึ่งช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
• สารอาหารครบถ้วน
• สามารถเลือกและควบคุมวัตถุดิบเองได้
• ราคาย่อมเยาว์สุดเมื่อเทียบกับอาหารสดชนิดอื่นๆ

ข้อเสีย 

• ต้องมีเวลาทำอาหาร
• ไม่สะดวกในการให้เพราะต้องนำมาละลายก่อน
• ไม่สะดวกในการเก็บ และเปลืองพื้นที่ในตู้เย็น
• ไม่สามารถเสิร์ฟอาหารทิ้งไว้เกิน 30 นาที เนื่องจากอาหารเสี่ยงจากการบูดเน่าเสีย
• อาหารจะคงความสดใหม่เพียงแค่ 3 เดือน และหมดสภาพหลัง 6 เดือน

ความสะดวกในการให้ ⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐

สารอาหาร ⭐⭐⭐⭐⭐

ความชื้น ⭐⭐⭐⭐⭐

ราคา ⭐⭐⭐

บาร์ฟสำเร็จรูปแช่แข็ง

คืออาหารสดดิบที่ผสมสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมเสิร์ฟ ข้อดีคือ เราไม่ต้องทำเอง ไม่ต้องเหนื่อยผสมอาหาร สะดวกระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องใช้พื้นที่เก็บในช่องแช่แข็ง ก่อนเสิร์ฟต้องนำบาร์ฟมาละลายอย่างช้าๆ โดยการนำมาแช่ไว้ในช่องแช่เย็นล่วงหน้า 1 วัน หากซื้อออนไลน์จะมีค่าใช้จ่ายในการส่งค่อนข้างสูง

ไม่เหมาะกับใคร: บ้านที่ไม่มีพื้นที่เก็บในตู้เย็น ไม่มีเวลาเสิร์ฟอาหารแมว เดินทางบ่อย

เหมาะกับใคร: สำหรับแมว - แมวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แมวประกวด แมวพันธุ์ผสม แมวจรจัดหรือแมวที่ขาดสารอาหาร 

สำหรับเจ้าของแมว – บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวแต่ไม่มีเวลาทำบาร์ฟเอง มีพื้นที่เก็บอาหารในช่องแช่แข็ง

ข้อดี 

• อาหารสดจะมีเอ็นไซม์ซึ่งช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
• สารอาหารครบถ้วน
• ไม่ต้องเหนื่อยผสมอาหารเอง

ข้อเสีย 

• ไม่สะดวกในการให้เพราะต้องนำมาละลายก่อน
• ไม่สะดวกในการเก็บ และเปลืองพื้นที่ในตู้เย็น
• ไม่สามารถเสิร์ฟอาหารทิ้งไว้เกิน 30 นาที เนื่องจากอาหารเสี่ยงจากการบูดเน่าเสีย
• อาหารจะคงความสดใหม่เพียงแค่ 3 เดือน และหมดสภาพหลัง 6 เดือน
• ราคาขนส่งแพง (หากซื้อออนไลน์)

ความสะดวกในการให้ ⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐

สารอาหาร ⭐⭐⭐⭐⭐

ความชื้น ⭐⭐⭐⭐⭐

ราคา ⭐⭐⭐⭐

บาร์ฟฟรีซดราย

บาร์ฟฟรีซดรายแบบไม่ได้เติมน้ำ

บาร์ฟฟรีซดรายแบบเติมน้ำดื่มแล้ว

คืออาหารสดดิบที่ผสมสำเร็จรูปพร้อมเสิร์ฟ มาในรูปแบบก้อนชิ้นเพื่อให้แบ่งเป็นมื้อได้ง่าย ผ่านกรรมวิธีฟรีซดราย – ซึ่งคือการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว (เร็วกว่าแช่แข็งธรรมดา) ด้วยอุณภูมิต่ำ -30 องศา และรีดน้ำออกด้วยระบบสุญญากาศ จนเหลือความชื้นไม่ถึง 3% ปรสิตและแบคทีเรียไม่สามารถอยู่ได้ นอกจากนี้ยังทำให้อาหารคงความสดใหม่ สารอาหารอยู่ครบเพราะไม่ผ่านความร้อน มีน้ำหนักเบาหวิวพกพาสะดวกและช่วยประหยัดค่าขนส่ง เนื่องจากเป็นอาหารฟรีซดรายเป็นอาหารแห้ง จึงเก็บได้นานมากกว่า 2 ปี โดยที่ไม่ต้องแช่แข็งหรือแช่เย็น ก่อนเสิร์ฟเพียงแค่เติมน้ำดื่มเพื่อให้อาหารคืนรูปกลับมาสดใหม่เหมือนบาร์ฟชนิดอื่นๆ

หากคุณสนใจเราก็มีจำหน่าย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ > Kyosane บาร์ฟแมวฟรีซดราย

ไม่เหมาะกับใคร: คนที่เลี้ยงแมวหลายตัวแต่มีงบประมาณจำกัด

เหมาะกับใคร: สำหรับแมว - แมวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แมวประกวด แมวพันธุ์ผสม แมวจรจัดหรือแมวที่ขาดสารอาหาร 

สำหรับเจ้าของแมว – บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวแต่ไม่มีเวลาทำบาร์ฟเอง ต้องการความสะดวกเป็นหลัก เดินทางบ่อย

ข้อดี

• สะดวกในการให้ แค่เติมน้ำ ไม่ต้องรอบาร์ฟละลาย
• เก็บง่าย เก็บเหมือนอาหารแห้ง ไม่ต้องแช่เย็น ไม่เปลืองพื้นที่
• เก็บได้นาน (มากกว่า 2 ปี)
• น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
• อาหารสดจะมีเอ็นไซม์ซึ่งช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
• สารอาหารครบถ้วน
• ค่าขนส่งถูกเนื่องจากมีน้ำหนักเบา

ข้อเสีย 

• หากเติมน้ำแล้ว ไม่สามารถเสิร์ฟอาหารทิ้งไว้เกิน 30 นาที เนื่องจากอาหารเสี่ยงจากการบูดเน่าเสีย
  
• หากเสิร์ฟแบบไม่เติมน้ำ แมวจะได้รับปริมาณน้ำไม่เพียงพอ
• มีราคาสูง

ความสะดวกในการให้ ⭐⭐⭐⭐

ความสะดวกในการเก็บ ⭐⭐⭐⭐⭐

สารอาหาร ⭐⭐⭐⭐⭐

ความชื้น ⭐⭐⭐⭐⭐

ราคา ⭐⭐⭐⭐⭐

คำถามที่พบบ่อย

ให้แมวกินบาร์ฟสลับกับอาหารชนิดอื่นได้หรือไม่?

หากคุณยังเลือกอาหารแมวเองไม่ถูก 

ต้องการคำแนะนำ 

ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาอะไร เรายินดีให้คำปรึกษา

ติดต่อเราได้ที่ Line: @kyosane